การปลูกหญ้านั้นจริงๆแล้วสามารถปลูกได้ทุกฤดูกาลแต่ปัจจัยหลักที่ผู้ปลูกควรคำนึงถึงมากที่สุดคือ น้ำและแสงแดดในฤดูกาลและบริเวณที่ปลูกหญ้า ช่วงแรกที่ปลูกหญ้านั้นหญ้าต้องการน้ำและแสงแดดอย่างเพียงพอ กล่าวได้คือ ต้องรดน้ำให้ชุ่มตลอดทั้งวันเพื่อให้รากหญ้าติดดินและสามารถหาอาหารได้เร็ว แสงแดดเพื่อให้หญ้าสามารถสังเคราะห์แสงได้เพื่อที่จะเจริญเติบโตและแข็งแรง ดังนั้นช่วงแรกที่ว่าต้องรดน้ำหบ่อยๆคือ ช่วง 1-2 อาทิตย์แรก และค่อยๆลดลง ในเวลาต่อๆมา ผู้ปลูกควรมีเวลาดูแลหลังการปลูก แต่ถ้าหากผู้ปลูกหญ้าไม่มีเวลาดูแลรดน้ำมากนัก ทางเราแนะนำให้ปลูกหญ้าในช่วงฤดูฝนจะดีที่สุด เพราะอากาศที่ไม่ร้อนแห้งแล้งจนเกินไป และยังมีฝนที่ตกลงมาช่วยให้หญ้าชุ่มชื่นอีกด้วย

ร้อน โล่งแจ้ง คีย์เวิร์ดนี้ดูไม่ยากเลยสำหรับการเลือกพันธ์หญ้าเข้ามาปลูก เพราะหญ้าที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีไม่กี่ชนิดนัก เพื่อให้เห็นภาพ เราจะยกตัวอย่าง พื้นที่ปลูกหญ้า สมมติว่า เป็นสนามฟุตบอล ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งพอนึกภาพกตามได้ใช่ไหมคะ ว่าร้อนและอยู่ในที่แจ้ง อีกทั้งยังต้องทนต่อการเหยียบย่ำด้วย จากประสบการณ์ของเราสถิติของลูกค้ามีความต้องการใช้หญ้านวลน้อยมากที่สุด สำหรับการปลูกหญ้าในสนามฟุตบอล

เนื่องจากหญ้านวลน้อยมีลักษณะใบที่เรียวแหลม ทนต่อการเหยียบย่ำ ชอบแสงแดดจัด เมื่อตัดเสมอจะเป็นพรมหญ้าสวยงาม แต่ก็มีลูกค้าบางส่วนที่เลือกหญ้าพาสพาลั่มเป็นหญ้าที่ใช้ในการปูสนามฟุตบอล เนื่องจากมีใบสีเขียวเข้ม ใบมน และให้ความรู้สึกนุ่มและใบหญ้าไม่แหลมทิ่มๆเวลานั่งหรือนอนลงไปเหมือนหญ้านวลน้อย แต่ด้วยลักษณะใบที่มนและนุ่มกว่านี้ทำให้ทนการเหยียบย่ำได้น้อยหว่าหญ้านวลน้อยนั่นเอง ส่วนตัวคิดว่าหญ้าพาสพาลั่ม เหมาะกับการปลูกเป็นสนามหญ้าในบ้าน สวนหย่อม มากกว่าค่ะ

กรณีที่ต้องการปลูกหญ้าในบริเวณที่มีแดดร่มรำไร แดดไม่จัดมากนัก ทางเราขอเสนอแนะเป็นหญ้ามาเลเซีย เพราะหญ้าชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อนชื้น ยกตัวอย่างเช่น สวนบาหลี จะต้องใช้หญ้ามาเลเซียเป็นองค์ประกอบในการจัดเพราะกสวนประเภทนี้จะให้อารมณ์ ฝนๆ ครึ้มๆ แดดร่มร่ำไร เหมาะกับหญ้ามาเลเซียยิ่งนัก ลักษณะใบใหญ่สีเขียวเข้มเมื่อสัมผัสจะรู้สึกนุ่ม ฟูเท้า เย็นสดชื่นและคุณสมบัติเด่นอีกอย่าง คือ สามารถปกคลุมหน้าดินได้ดีและป้องกันวัชพืชอื่นๆขึ้นแซมได้ดีด้วย แต่ใต้ใบของหญ้ามาเลเซียนั้นจะมีขนเล็กน้อย อาจเกิดการระคายเคืองกับผิวเด็กเล็กๆได้ ในกรณีที่ผู้ปลูกต้องการสร้างสนามเด็กเล่นให้กับเจ้าตัวเล็กน่ารักๆที่บ้า อาจคันระคายเคืองผิวได้

การลงทรายบนหน้าดินถือเป็นสิ่งจำเป้นเนื่องจากหญ้าจะสามารถเจริญเติบโตได้ดินร่วนปนทราย และเพื่อให้พื้นสนามนุ่มเนียน พื้นเรียบเสมอไม่เป็นพื้นที่สูงๆต่ำๆ พื้นที่เป็นหลุม หญ้าที่อยู่ในหลุมอาจตายได้ และอีกข้อดีของการถมทรายบนหน้าดิน จะทำให้น้ำไม่ขัง หญ้าระบายน้ำได้ดีอีกด้วย ยกตัวอย่าง การปลูกหญ้าในสนามกอล์ฟทั้งหลายก็ต้องลงทรายก่อนปูหญ้าทั้งหมดค่ะ

ทรายขี้เป็ดหรือทรายถมนั่นเอง เพราะทรายชนิดนี้มีอนุภาคของดินร่วนผสมอยู่ จึงมีแร่ธาตุสูงกว่าทรายละเอียดหรือทรายหยาบทรายชนิดนี้มีเนื้อเม็ดพอดีและมีหินกรวด หรือเศษหินละเอียด ผสมกับที่ดินเล็กน้อย เหมาะแก่การนำมาถมที่ ปรับหน้าดินก่อนการเทปูน หรือปรับหน้าดินก่อนการปลูกต้นไม้ ทรายถมมีลักษณะการไหลตัวได้ดีจึงสามารถป้องกันการลอดผ่านของน้ำหรือของเหลวได้ดี

หลักการง่ายๆเหมือนกับการปลูกต้นไม้หลายๆชนิด คือ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ฟื้นฟูดินเมื่อดินเริ่มเสื่อมสภาพ ตัดแต่งให้สวยงาม หญ้าก็เช่นกัน

ข้อแรกเลย คือ น้ำ “น้ำชุ่ม+ดินฉ่ำ=รากติด”

สมการง่ายๆเลยค่ะ รดน้ำให้มากในช่วงสัปดาห์แรก ถ้าพื้นที่ใหญ่อาจต้องมองไปถึงการวางระบกบสปริงเกอร์ เพื่อให้น้ำหญ้าได้อย่างทั่วถึง รดน้ำให้มาก มากแค่ไหน? อธิบายคำถามนี้ง่ายๆคือ 5ครั้งต่อวันเป็นอย่างน้อยค่ะ (เช้า-สาย-บ่าย-บ่ายแก่-และช่วงเย็น) ช่วงบ่ายแดดประเทศเราจัดมากค่ะต้องรดให้มาก รดให้ชุ่ม เพราะถ้าหญ้าได้น้ำไม่เพียงพอในช่วงนี้อาจไม่รอดค่ะ หลังจากรดน้ำหนักๆในช่วงสัปดาห์แรกแล้วค่อยลดลงเป็น ช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงบ่าย ก็เพียงพอค่ะ

ถ้าต้องการทำให้หญ้าเขียว ต้องทำอย่างไร?

ถ้าต้องการความเขียวให้เสริมธาตุอาหารบำรุงน้องหน่อยค่ะ ใส่ปุ๋ยอาจจะต้องใช้ปุ๋ยเคมีช่วย เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับหญ้า โดยทำกการใส่ปุ๋ยหลังจากที่หญ้ามีอายุได้ประมาณ 20 วัน เพื่อให้หญ้ามีใบเขียว แข็งแรง ดูสดชื่นสบายตา

การฟื้นฟูสภาพดินในกรณที่ดินเสื่อมสภาพ

ดินแข็งเกินไปทำให้หญ้าไม่เจริญเติบโต เหลือง และตายในที่สุด ในขั้นตอนนี้อาจจะใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือ ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อเป็นการฟื้นฟูให้ดินมีอาหารและเป็นแหล่งอาหารที่ดีให้กับหญ้าได้

การตัดแต่ง

หนึ่งในปัญหาวัดใจในการตัดสินใจปลูกหญ้า และเกิดการเปรียบเทียบระหว่าง หญ้าเทียมกับหญ้าจริง ก็คือ เบื่อกับการตัดใบหญ้าเนื่องจากเมื่อปล่อยให้ใบหญ้ายาวสูงแล้วจากที่จะสวยสบายตากลายเป็นรก วัชพืชอื่นๆก็ขึ้นตามมาอีกด้วย แต่ถ้ามองถึงข้อดีอีกหลายข้อในการปลูกหญ้าจริงแล้วก็น่าจะคุ้มค่ากับการเสียเวลาดูแลตัดแต่ง โดยการตัดหญ้าเดือนละ 2 ครั้ง คิดว่าออกกำลังกายช่วงเย็นๆก็ได้ค่ะ จะได้ทั้งหญ้าสวยและสุขภาพดีไปด้วย

• กำจัดวัชพืชก่อนเลยค่ะ เพราะถ้าไม่ทำการกำจัดวัชพืชก่อน จะทำให้หลังจากปลูกหญ้าแล้ววัชพืชเหล่านั้นจะสามารถขึ้นแซมหญ้าได้เร็วมากและทำให้พันธ์หญ้าที่เราปลูกไม่สวยงามจะเป็นการกำจัดด้วยวิธีการถอนวัชพืชออก หรือ ใช้ยาฆ่าหญ้ากำจัดออกก็ได้ค่ะ แต่การใช้ยาฆ่าหญ้านั้นควรพักหน้าดินอย่างน้อย 30 วัน เพื่อไม่หั้เกิดผลกระทบกับหญ้าที่จะปลูก
• หลังจากกำจัดวัชพืชเรียบร้อยแล้วก็ให้ทำการปรับพื้นที่ที่จะปูหญ้า โดยการถมทรายเพื่อปรับหน้าดินให้เรียบเนียนไม่ขรุขระ เวลาที่ทำการปูหญ้าลงไปพื้นที่จะได้เสมอกัน โดยการถมทรายด้วยความหนาประมาณ1-2 นิ้ว โดยใช้เป็น ทรายขี้เป็ด ที่แนะนำให้ใช้เป้นทรายขี้เป็ดเนื่องจาก ทรายขี้เป็ดเป็นทรายที่มีอนุภาคของดินร่วมผสมอยู่จึงมีแร่ธาตุสูงกว่าทรายละเอียดหรือทรายหยาบ
• หลังจากปรับพื้นที่ด้วยการถมทรายแล้วก็ให้ใช้ดินชีวภาพหว่านลงบนพื้นที่อีกขั้นตอน เพื่อช่วยเพิ่มสารอาหารให้กับดิน และให้รากหญ้าสามารถชอนไชติดกับหน้าดินได้ง่าย
• หน้าดินพร้อมพร้อมลงมือปูหญ้าลงบนพื้นที่ได้เลยค่ะ หลังปลูกเรียบร้อยรดน้ำบ่อยๆในช่วงสัปดาห์ค่ะ

ต้นไม้ต้นหญ้าต้องการการดูแลเอาใจใส่ พื้นฐานในการปลูกพืช คือ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ตัดแต่ง หญ้าไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากนัก แต่ต้องไม่ขาดหลักพื้นฐานในการดูแลพืชทั่วไป และหากต้องการให้หญ้ามีเขียวสดชื่นสวยงาม นอกจากรดน้ำสม่ำเสมอแล้วต้อง ใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับหญ้าด้วยค่ะ โดยปุ๋ยที่ใส่อาจต้องใช้เป็นเคมี แต่หากใครไม่สะดวกที่จะใช้ปุ๋ยเคมีก็สามารถใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพได้เช่นกันแต่อาจเห็นผลช้ากว่าต้องใจเย็นหน่อยค่ะ

การตัดหญ้า คือ การตัดใบหญ้าเพื่อไม่ให้ใบหญ้ายาวดูรกเกินไปและให้หญ้าโตไวฟูหนาเหมือนพรมธรรมชาติสีเขียวดังนั้นไม่ควรปล่อยให้หญ้ายาวเกิน 1.5- 2 นิ้ว เพราะเมื่อกตัดใบหญ้าออกไปจะทำให้เราตัดใบออกหมดและจะเหลือแต่ตอหญ้าซึ่งจะทำให้หญ้าดูเหลืองไม่สวย อีกข้อหนึ่งคือจะต้องออกแรงเยอะหากทิ้งให้ใบยาวมากและเกิดความรู้สึกอยากรื้อสนามหญ้าทิ้งมากกว่า เพื่อป้องกันความรู้สึกแบบนั้นควรจัดการมันเสียก่อนที่หญ้าจะยาวมาก คิดว่าเป็นการออกกำลังกาย ตัดช่วงแดดร่มลมตกก็ได้ค่ะ จะได้ใจเย็นๆเหมือนอากาศ

เนื่องจากหญ้าเป็นสินค้าที่ซื้อขายกันโดยหน่วยเป็นตารางเมตร สินค้าจึงมีขนาดและน้ำหนักต่อชิ้นค่อนข้างมาก การจัดส่งจึงจัดส่งโดยรถกระบะมีคอกกั้นหรือรถบรรทุก คิดตามระยะทาง ต่อเที่ยว การขนส่ง

• รถกระบะคอกเหล็กจะสามารถบรรทุกได้ ประมาณ800-1000 ตรม.
• รถบรรทุก 6 ล้อ จะสามารถบรรทุกได้ ประมาณ 2000-2500 ตรม.
• รถบรรทุก 10 ล้อจะสามารถบรรทุกได้ ประมาณ 3000-3500 ตรม. โดยปริมาณขึ้นอยู่กับเนื้อหญ้าว่าฟูหนาแค่ไหน

ดังนั้นนี่คือต้นทุนที่ผู้ซื้อหญ้าต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นส่วนนี้ด้วยค่ะ สามารถสอบถามค่าขนส่งโดยแจ้ง เขต/อำเภอ และจังหวัด ให้เราคำนวณระยะทางสำหรับค่าขนส่งค่ะ

ผู้บริโภคน่าจะทราบดีว่าราคาสินค้าทางการเกษตรมีการปรับขึ้นลงตามฤดูกาลหรือปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ณ ขณะนั้น เนื่องจากสินค้าทางการเกษตรมีอัตราการเสี่ยงสูงจากสภาพดินฟ้าอากาศ บางฤดูกาลเติบโตช้าและความต้องการของตลาดมีมากทำให้สินค้าขาดตลาดทำให้ราคาปรับขึ้น บางฤดูกาลสามารถเติบโตได้เร็วสินค้าจึงมีมากกว่าต้องการตลาด ราคาจึงปรับถูกลง ต้นทุนการผลิตก็ต่างกันในแต่ละฤดูกาลส่งผลให้ราคาหญ้าเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ขอลูกค้าโปรดเข้าใจถึงปัจจัยการปรับราคาขึ้นลงนี้ด้วยค่ะ